ปัญหาใหญ่แรงงานไทยนอกระบบ
โดย : นางสาวดุจเดือน เบ็ญจรูญ
รหัสนิสิต : 52010119016
รหัสนิสิต : 52010119016
“แรงาน” เปรียบเสมือนแขนขาของประเทศ เพราะเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญของกระบวนการผลิตในสาขาต่างๆ ทุกวันนี้ประเทศไทยมีจำนวนประชากรเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆมีผลทำให้เกิดภาวการณ์แย่งงานกันและสุดท้ายก็นำไปสู่ปัญหาการว่างงาน จากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่าแต่ละปีมีแรรงงานที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปี ขึ้นไปที่ไม่เข้ารับการศึกษาก็จะมาเป็นแรงงานตามตลาดแรงงานอย่างหลีกเหลี่ยงไม่ได้ไม่ว่าจะเป็น โรงงานต่างๆ และสถานให้บริการต่างๆ ด้วยความจำเป็นทางเศรษฐกิจพวกเขาเหล่านั้นให้แรรงงานเหล่านี้ต้องออกมาทำงานหนักแลกกับค่าแรงเพียงเล็กน้อยหรือค่าแรงที่ไม่คุ้มค่าบางครั้งก็ถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายจ้างผู้ประกอบการ ในทามกลางสภาพทางเศรษฐกิจที่ไม่มีใครกล้ารับประกันความมั่นคงทางการเงินและชีวิตความเป็นอยู่ของคนในสังคมได้
ปัจจุบันจำนวนแรงงานในประเทศไทยมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆเนื่องมีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นทำให้ความต้องการทางการเงินเพิ่มขึ้นอีกเช่นกัน ซึ่งแรงงานในประเทศไทยในปัจจุบันแบ่งออกเป็น 2 ระบบ คือ แรงงานในระบบ และ แรงานนอกระบบ ประเภทที่หนึ่งแรงงานในระบบ เป็นผู้ที่มีรายได้ประจำเดือนที่แน่นนอน หรือเรียกอย่างหนึ่งว่า “มนุษย์เงินเดือน” โดยแรงงานเหล่านี้จะทำงานเป็นเวลา มีสวัสดิการที่ดีรองรับจากภาครัฐและภาคเอกชนเจ้าของกิจการ ส่วนแรงงานประเภทที่สองคือ แรงงานนอกระบบ เป็นพวกที่ทำงานอิสระ ไม่มีสวัสดิการรองรับ ค่าแรงต่ำรายได้ไม่แน่นอน ไม่มีการจ้างงานที่สม่ำเสมอ เช่น รับจ้างทั่วไป เกษตรกร แม่ค้า ช่างซ่อมรถ ช่างผม ซึ่งแรงงานประเภทที่สองจะมีรายได้และสวัสดิการที่แตกต่างจากกลุ่มที่หนึ่งอย่างสิ้นเชิง
ในส่วนของแรงงานในระบบไม่น่าจะเป็นห่วงมากเท่าไหร่นัก เพราะแรงงานกลุ่มนี้มีสวัสดิการที่ดีรองรับจากทางภาครัฐแล้ว แต่ส่วนที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดคือ “แรงงานนอกระบบ” แรงงานกลุ่มนี้เป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะประสบปัญหาการถูกเอารัดเอาเปรียบจ้างนายจ้างผู้ประกอบการ ส่งผลในการดำรงชีวิตของแรงงานเหล่านี้อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อระบบบรรทัดฐานทางสังคมซึ่งอาจเป็นปัญหาต่อสังคมในภายภาคหน้าได้
“แรงงานนอกระบบ” เป็นกลุ่มแรงงานที่มีขนาดใหญ่มีซึ่งมีจำนวน 2 ใน 3 ของแรงงานทั้งหมดถ้ารับร่วมประชากรที่เป็นแรงงานทั้งในและนอกระบบ จากการรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติว่า แรงงานส่วนใหญ่นั้นจะอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพราะที่ภาคอีสานมีจำนวนประชากรที่มีจำนวนมาก และมีความต้องการใช้แรงงานสูงในภาคของการเกษตร จากการรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติทำการสำรวจตั้งแต่ปี 2548 - 2553 พบว่า แนวโน้มการเพิ่มขึ้นของแรงงานนอกระบบอย่างต่อเนื่อง และเป็นที่น่าตกใจว่าแรงงานส่วนนี้ไม่มีการศึกษาและการศึกษาในระดับประถมศึกษามาเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการศึกษาในประเทศไทยยังไม่เข้มงวด และด้วยภาวะทางเศรษฐกิจที่ตกต่ำทำให้ประชาชนต้องหยุดเรียนและออกมาขายแรงงานตามตลาดแรงงานส่งผลให้เกิดปัญหาสังคมตามมา
จากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า แรงงานนอกระบบทั่วประเทศที่พบมากที่สุดคือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อันดับที่สองคือ ภาคเหนือ อันดับที่สามคือ ภาคกลาง อันดับที่สี่คือ ภาคใต้ และสุดท้ายคือกรุงเทพมหานครดังกราฟที่ 1 กราฟแสดงจำนวนแรงงานนอกระบบทั่งประเทศ โดยจำแนกเป็นภาคดังต่อไปนี้
จากกราฟที่ 1 จะเห็นได้ว่าภาคอีสานมีจำนวนแรงงานนอกระบบมากเป็นอันดับหนึ่ง คือ 41.6%เพราะว่าภาคอีสานมีการทำการเกษตรเป็นจำนวนมาก ทำให้ความต้องการในด้านการใช้แรงงานมีมากกว่าทุกภาค อันดับที่สองเป็นภาคเหนือคือ 21.3% เพราะภาคเหนือก็มีการทำการเกษตรมากเช่นเดียวกันอีกทั้งยังเป็นเมืองท่องเที่ยวอีกด้วย อันดับที่เป็นภาคกลาง คือ 18.8% เพราะในภาคกลางก็มีการทำการเกษตรเช่นกันแต่มีการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ในการเกษตรแทนแรงงานคน อันดับที่สี่ภาคใต้ คือ 12.9% แรงงานส่วนใหญ่จะอยู่ในภาคการประมง และและภาคบริการในการท่องเที่ยว และสุดท้ายคือกรุงเทพมหานคร 5.4% 0จะเห็นว่ากรุงเทพมหานครเพียงมือเดียวก็มีจำนวนแรงงานนอกระบบเทียบจะเท่ากับแรงงานในภาคใต้ก็เพราะว่า ในกรุงเทพมหานครมีจำนวนประชากรแฝงอยู่เป็นจำนวนมากและอีกอย่างหนึ่งความเป็นเมืองหลวงทำให้การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดีกว่าจึงดึงดูดให้ประชาชนเข้ามาทำงานที่เมืองหลวง
โดยผลการสำรวจล่าสุดของสำนักงานสถิติแห่งชาติ เมื่อปี 2553 พบว่าจำนวนแรงงานนอกระบบทั้งหมด พบว่า มากว่าครึ่งหนึ่งของแรงงานนอกระบบ ทำงานในภาคการเกษตรกรรม รองลงมาเป็นภาคการค้าลารบริการ และสุดท้ายคือภาคการผลิต ดังกราฟที่ 2 แสดงจำนวนแรงงานนอกระบบ
จากกราฟที่ 2 จะเห็นว่าแรงงานที่ทำงานในภาคการเกษตรมีจำนวนมากกว่าครึ่ง คือ 60% ได้แก่ การทำนา ทำไร่ ทำสวน การประมง ฯลฯ รองลงมาคือ ภาคของการบริการ คือ 31.4% ได้แก่ แม่ค้า ช่างซ่อมรถ ช่างเสริมสวย ช่างรับเหมา คนขับรถรับจ้าง ฯลฯ และสุดท้ายภาคการผลิตคือ 8.6% ได้แก่ภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจค้าปลีกและส่ง ฯลฯ
จากการสำรวลพบว่าสถานการณ์ปัจจุบันแรงงานนอกระบบในประเทศไทยประสบปัญหามากมายเนื่องจากว่าขาดการดูแลของทางภาครัฐทำให้แรงงานเหล่านี้ไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปพึ่งฝ่ายใดถึงจะได้รับความยุติธรรมทางสังคม นอกจากนี้แรงงานเหล่านี้ยังประสบกับบัญหาที่ว่านายจ้างรับแรงงานต่างชาติหรือแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานแทนแรงงานไทย เพราะค่าแรงถูกกว่าและปัญหาที่ตามมาคือ เกิดเป็นปัญหาสังคม และทำให้คนในประเทศไม่มีงานทำหรือหางานทำได้ยาก เป็นปัญหาที่รอการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพื่อเป็นการสกัดกั้นไม่ให้เกิดการค้าแรงงานข้ามชาติ ซึ่งปัญหาระดับชาติที่ยังเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตก คนไทยบางรายถูกหลอกให้ไปทำงานที่ต่างประเทศสุดท้ายก็โดนนายหน้าโกงจนหมดตัว
โดยปัญหาที่แรงงานนอกระบบพบมากและอยากให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือเป็นอันอันดับต้นๆ ก็คือ ปัญหาค่าตอบแทนน้อย ไม่ได้รับการจ้างงานที่ต่อเนื่อง ทำงานหนักมากเกินไป ไม่มีสวัสดิการรองรับ และอื่นๆ ซึ่งกราฟที่ 3 เป็นการแสดงปัญหาที่เกิดกับแรงงานนอกระบบ ดังต่อไปนี้
จากกราฟที่ 3 จะเห็นว่าปัญหาที่พบมากที่สุดของแรงงานนอกระบบ คือ ปัญหาค่าตอบแทนน้อย 48.5% โดยแรงงานจะถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายจ้างเพราะไม่มีการคุ้มครองจากภาครัฐ อันดับที่สองคือ ไม่ได้รับการจ้างงานที่ต่อเนื่อง 21.5% เพราะเมื่อหมดฤดูกาลแล้วก็จะไม่มีการจ้างงาน เช่น การจ้างงานในภาคการเกษตร ทำให้แรงงานขาดรายได้และไม่มีรายได้ที่ต่อเนื่อง ลำดับที่สามคือทำงานหนัก 5.2% เนื่องค่าแรงน้อยทำให้แรงงานต้องเพิ่มระยะเวลาในการทำงานเพื่อให้ได้ค่าตอบแทนในการทำงานในจำนวนที่มากและเพียงพอต่อความต้องการ ลำดับที่สี่คือ ไม่มีสวัสดิการ 5.2% เพราะไม่ได้รับการคุ้มครองจาการประกันสังคม และอื่นๆ 5.8% เช่น ไม่มีวันหยุด ทำงานไม่ตรงเวลา พักผ่อนไม่ได้ และชั่วโมงงานมากเกินไป
จากปัญหาในข้างต้นที่พบกับแรงงานนอกระบบ ทำให้แรงงานนอกระบบประสบปัญหาอย่างหลีกเหลี่ยงไม่ได้ โดยทางภาครัฐต้องเข้ามาดูแลและให้ความช่วยเหลือแรงงานเหล่านี้เพื่อลดภาระของปัญหาสังคมในด้านการใช้แรงงาน อีกทั้งต้องให้ความเท่าเทียมกันในสังคมระหว่างแรงงานในระบบและแรงงานนอกระบบเพื่อให้เกิดความยุติธรรมในการใช้แรงงาน แรงงานนอกระบบของไทยมีจำนวน 2 ใน 3 ของแรงงานทั้งหมด และปัญหาที่ตามมา คือ แรงงานนอกระบบมักเป็นกลุ่มคนที่มีรายได้น้อยและไม่แน่นอน แต่กลับไม่ได้รับการช่วยเหลือ และคุ้มครองจากรัฐบาลทั้งด้านกฎหมายแรงงานและประกันสังคม เนื่องจากรัฐบาลไม่มีฐานข้อมูลจากคนกลุ่มนี้ ทำให้กำหนดมาตรการช่วยลงไปถึงคนกลุ่มนี้ได้ยาก ตัวอย่างที่เห็นชัด คือ แรงงานนอกระบบไม่มีการเก็บสถิติ ไม่มีจำนวนที่ชัดเจน ไม่มีการกรอกประวัติการทำงานที่แน่นนอน ทำให้ภาครัฐเข้าแก้ปัญหาในจุดนี้ได้ยาก ซึ่งเป็นปัญหาที่รอการแก้ไขเพื่อให้แรงงานนอกระบบมีสิทธิประโยชน์เหมือนกลุ่มคนที่อยู่ในระบบและที่สำคือเพื่อลดแนวโน้นของการเพิ่มจำนวนแรงงานนอกระบบลงอีกด้วย
ข้อเสนอแนะ
1.ภาครัฐต้องเพิ่มสวัสดิการให้กับแรงงานนกระบบ เช่น ที่อยู่อาศัย การเข้ารับการรักษาฟรีในสถานบริการของรัฐ
2.จัดต้องกองทุนเงินกู้สำหรับแรงงานนอกระบบที่ประปัญหาการว่างงาน พร้อมทั้งเก็บดอกเบี้ยในอัตราที่มีความเหมาะสมกับรายได้
3.ทางภาครัฐต้องส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่มของประชาชน เพื่อรองรับปัญหาการว่างงาน
4.ทางภาครัฐต้องเข้ามาช่วยเหลือในส่วนของค่าแรงงขั้นต่ำให้เหมาะสมกับใช้แรงงาน
เอกสารอ้างอิง
http://service.nso.go.th/nso/nsopublish/BaseStat/basestat.html
http://service.nso.go.th/nso/nsopublish/BaseStat/basestat.html
สืบค้นวันที่ 20 มกราคม 2554
ดีนะ
ตอบลบตรวจแล้ว
ตอบลบอ.กนกพร